วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ตลาดนัมแดมุน


ตลาดนัมแดมุน อยู่ใกล้กับประตูเมืองทางทิศเหนือ เป็นตลาดเหมือนกับตลาดทั่วๆไปค่ะ
ช๊อปปิ้งที่ตลาดนัมแดมุน มีขนาดใหญ่มาก..เข้าได้หลายประตู..มีหลายโซน...แต่ไม่ค่อยเห็นมีที่เป็นตึกใหญ่ๆนะค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแถว จากที่นี่ไปย่านมยองดงสามารถเดินไปได้เลย ที่นี่มีขายสินค้าเยอะค่ะคล้ายๆสำเพ็งของบ้านเรา ส่วนใหญ่ถ้าเป็นพวกเสื้อผ้า..จะเป็นแนวผู้ใหญ่ๆหน่อย ร่ม หมอน ผ้าเยอะมากๆ มีของที่ระลึก พวกพวงกุญแจห้อยๆ ชาม ตะเกียบเหล็ก ที่เราเห็นบ่อยๆในหนังเกาหลีส่วนที่สำคัญของที่นี่คือ สาหร่าย โสม หรือพวกของแห้งสำหรับซื้อฝาก จะขายเป็นแพ็คใหญ่หลายยี่ห้อ หลายรส ชิมได้ ถามถึงตลาดไหนที่ต่อราคาได้ ก็ต้องที่นี่ค่ะ ยิ่งซื้อจำนวนมาก...อาจมีแถมหรือได้ลดเยอะเลย  เป็นเสน่ห์ของตลาดนี้ ไม่น่าเชื่อคือที่ตลาดนี้มีหลายร้านที่คนขายพูดไทยได้ด้วย   ถ้าเดินเข้าไปลึกๆ จะเจอตลาดสดด้วยค่ะ ถ้าตอนเช้าๆจะดูคึกคักไปอีกแบบค่ะ มีของหม่ำเล่นๆตอนเช้าเพียบเลย พวกน้ำเต้าหู้ร้อน Toast และขนมต่างๆ ...ที่นี่เปิด 10โมงเช้า ปิดตอนเย็นประมาณ 6 โมง   แต่ร้านอาหาร หรือร้านค้ากลางแจ้งเปิดถึงเที่ยงคืนค่ะ




 
























***การเดินทางมาก็ใช้ รถไฟใต้ดินสาย 4 ลงที่ Hoehyeon Station...Exit 5 ค่ะ


CREDIT : seoulciety www.happytokorea.com

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ของฝากจากเกาหลี 10 อย่าง ที่น่าจะอยู่ในรายการฝากซื้อ


1. โสมเกาหลี มาเกาหลี ไม่มีของฝากเป็นโสม เหมือนมาไม่ถึงนะค่ะโสมเป็นส่วนผสมของสินค้าตั้งแต่ ของคาว หวาน ทานเล่น จนถึงเครื่องสำอางค์ เค้าเพิ่มคุณค่าของสินค้าได้ดีมาก  โสมจะมีกลิ่นและรสชาติเป็นรูปแบบเฉพาะจะขื่นๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบรสขม แต่กับบางคน กลิ่นและรสชาติไม่เป็นปัญหา โสมจัดเป็นรากไม้บำรุงสุขภาพ ..ว่ากันว่ารักษาได้ทุกอย่าง  เราแนะนำ ชาโสมชงน้ำร้อนดื่ม  เค้าว่าบำรุงเลือด ปรับหยิน หยางให้สมดุลทำให้แข็งแรง และดื่มได้อร่อยมากขึ้นในอากาศเย็นๆ...เป็นหนึ่งในของฝากให้ผู้หลัก ผู้ใหญ่ได้ดีค่ะ


2. ของที่ระลึก ตั้งแต่ พวงกุญแจ ที่ใส่นามบัตร ที่ตัดเล็บ ตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ ไปยังช้อนตะเกียบและถ้วยสแตนเลสใส่ข้าว ของพวกนี้สามารถเป็นของฝากลูกน้องในที่ทำงานเพื่อนร่วมงาน ราคาไม่แพง นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกค่ะ




 3. สาหร่ายอบกรอบ  เป็นของทานเล่น เรารับทานมานานมาก อร่อยทานง่ายราคาไม่แพง ..มีให้เลือกหลากหลายรสชาติแล้วแต่ความต้องการเจ้านี่น้ำหนักเบา   แต่ปริมาณบรรจุอาจกินเนื้อที่หน่อยค่ะ



 4. กิมจิ ....เป็น side dish ที่ทรงคุณค่า นอกจากทานกับอาหารยังสามารถนำมาประกอบ  เป็นอาหารได้อีกหลายอย่าง ลองใช้กิมจิใส่ในแกงส้มไทยซิค่ะ




  5. ม่าม่าเกาหลีเป็นม่าม่าซองใหญ่ เส้นหนานุ่มกว่า เลือกรสชาติแบบเผ็ดจะตรงกับรสชาติคนไทยชอบ




 6. ผลไม้สดในช่วงหน้าหนาวของเกาหลี ( ธันวาคม-มกราคม ) สตอเบอรรี่ ลูกใหญ่ รสหวานมากกก  สาลี่ลูกใหญ่หวานเช่นกันแต่ต้องรอช่วง Fall ( กันยายน-พฤศจิกายน ) สามารถซื้อขึ้นเครื่องได้  รสชาติผลไม้สองอย่างนี้ อร่อยสุด ราคาดีในช่วงหน้าของมัน...นับเป็นของฝากได้อย่างดี...( บางท่านเคยบอกเอากลับไทยแล้วรสชาติไม่หวาน ต้องแล้วแต่ร้านแล้วแต่เลือกนะคะ )



7. ผ้าปูโต๊ะคุณภาพดี ..เกาหลีมีตลาดผ้าที่ขึ้นชื่อมาอย่างยาวนาน คุณภาพผ้าจะดีและราคาสมเหตุผลเราได้สั่งตัดผ้าปูโต๊ะใหม่ พบว่าเนื้อผ้าหนา ซักแล้วไม่หด(แต่ใช้เวลารีดนานหน่อย)ประทับใจค่ะ จะสั่งตัดกลับไปให้ที่บ้านเหมือนกันเหมาะสำหรับเป็นของฝากคนใกล้ชิดและคุณแม่บ้านทั้งหลาย



 8. เสื้อผ้าเกาหลี ..แฟชั่นที่นี่มาไวไปไวและน่าสวมใส่ มาก  สังเกตว่าสาวๆ เกาหลีแต่งตัวเก่ง  แต่งได้น่าดู ไม่มากไม่น้อย หวานปนเทห์นิดๆ เราชอบนะคะ คนที่นี่ช่างแต่งตัว แม้กระทั่งคนสูงอายุก็แต่งตัวค่ะ  มาที่นี่ต้องซื้อเสื้อผ้าติดไปบ้างค่ะคุณภาพผ้าดี ราคาอาจจะสูงเมื่อเทียบกับราคาเสื้อผ้าบ้านเรา   แต่คัทติ้งเนี้ยบและมีสไตล์มากค่ะ



 9. รองเท้าผ้าใบแบบวัยรุ่น  ..เราไม่ได้สนใจมาก แต่ลูกสาวและเพื่อนๆ ที่อยู่ในวัยเดียวกันยืนยันว่ารองเท้าที่นี่สวย แบบล้ำและ ราคาถูกกว่าที่ขายในเมืองไทย   ถ้ามีโอกาสมาเที่ยว ลองมาดูนะค่ะ



 10. เครื่องสำอางเกาหลี  เป็นของฝากใจสำหรับทุกผู้ ทุกวัย  ไม่ มีใคร ไม่รู้จักเป็นของฝากที่ยอดนิยมที่สุด ..และก่อให้เกิดปัญหาน้ำหนักเกินมากที่สุดเป็นของฝากที่น่าใช้ที่สุด คุณภาพดี ราคาใช้ได้ มีมากมายหลายรายการน่าลอง น่าใช้ละลานตาไปหมด  นับตั้งแต่ Base , ครีมลองพื้น ,moisturizer , tonerแป้ง ลิปสติก ..สรุปว่าหมดทุกอย่าง  ..Skin product ตั้งแต่ศรีษะยันปลายเท้า  หลายๆ ยี่ห้อเป็นที่รู้จักและราคาถูกเมื่อเทียบกับที่ซื้อในเมืองไทย Skin Food , Etudy , Lanige , Missha , The Face shop ,Rojukis , Beauty Credit 

      
   




 

 

 



                                                                                                                                                    

SNSD - Into The New World 1st Asia Tour in Korea...

                                                                                                                                                 เมื่อวานนี้สาวๆ มาเปิดคอนเสิร์ตที่ไทยเป็นครั้งแรก คนแน่นฮอลล์กันเลยทีเดียว โซวอนไทยเยอะมากจริงๆ สาวๆ คงปลื้มน่าดู ^^ พูดแล้วก็อยากไปอะ                             

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555



เอาไว้หันเต้น !!!

โซลทาวเวอร์ ( Seoul Tower )

โซลทาวเวอร์  ( Seoul Tower )





โซลทาวเวอร์  ( Seoul Tower )
 ตั้งอยู่บริเวณ สวนนัมซาน ( Namsan Park ) โดยมีความสูง 480 เมตรจากระดับน้ำทะเล โซลทาวเวอร์ถูกสร้างขึ้นในปี 1969 และเปิดให้เข้าชมเมื่อ ปี 1980 ในวันที่ท้องฟ้าเปิดจะมีนักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปบนชั้นชมวิวหอคอยแห่งนี้เพื่อชมวิวพาโนรามาของกรุงโซล เมื่อเราขึ้นไปบนหอคอยแห่งกรุงโซลซึ่งเป็นหอสูงที่อยู่อันดับต้นๆของโลก  เราจะเห็นทัศนียภาพทั้งหมดของกรุงโซล และที่บนสุดของหอคอยก็มีหอดูดาวและภัตตาคารหมุนได้รอบ มีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งโลกอันเป็นที่เก็บวัตถุโบราณที่หายากและมีค่ามากกว่า 20,000 ชิ้นจาก 150 ประเทศ และมีโรงภาพยนตร์ 3 มิติด้วย  นอกจากนี้ยังนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์หมีเท็ดดี้แบร์กว่า 1,000 ตัวที่ถูกนำมาจัดเรียงไว้แล้วถ่ายทอดเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ และ ชมพิพิธภัณฑ์เท็ดดี้ แบร์ ที่จัดขึ้นที่โซล ทาวเวอร์ ให้ท่านได้ชมเสมือนท่านได้อยู่ที่เกาะเจจู และมีอีกอย่างนึงที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ การที่มีคู่รักเดินขึ้นไปแล้วเอากุญแจที่มีชื่อตัวเองกับคนรักเขียนแล้วนำไป ล็อคไว้ จากนั้นก็จะโยนลูกกุญแจทิ้ง…เป็นเคล็ดว่ารักเราทั้งสองคนจะอยู่ด้วยกัน ตลอดไป ไม่มีใครมาพลัดพลาก

การแต่งกายของคนเกาหลี

เครื่องแต่งกายประจำชาติ

เครื่องแต่งกายของชาวเกาหลีใต้ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีชื่อเรียกว่า
“ฮันบก (한복)” ซึ่งหากแยกคำ “ฮัน” จะหมายถึง ชาวฮั่นหรือชาวเกาหลี และ “บก” หมายถึง ชุด ความหมายรวมจึงเป็น “ชุดของชาวเกาหลี” นั่นเอง
ความงามและความอ่อนช้อยของวัฒนธรรมเกาหลี มักถูกถ่ายทอดออกมาผ่าน
ทาง ภาพถ่ายของสุภาพสตรีในเครื่องแต่งกายฮันบกนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ชุด
ฮันบกจะเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของประเทศเกาหลี
เครื่องแต่งกายทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย จะมีลักษณะหลวมเพื่อความสะดวกสบาย ในการเคลื่อนไหว และเสื้อผ้าจะใช้ผ้าผูกแทนกระดุมหรือตะขอ โดยส่วนประกอบของชุดฮันบก มีดังนี้

ชุดผู้หญิง ชุดผู้ชาย


แพนที = กระโปรงชั้นใน
ซ็อกชีมา = แถบผ้าขนาดใหญ่ ใช้มัดทรวงอกแทนเสื้อยกทรง
ชีมา = กระโปรงชั้นนอก ยาวคลุมเท้า
จอโกรี = เสื้อนอกแขนยาว

ปันซือ / แพนที = กางเกงชั้นใน
พาจี = กางเกงขายาวชั้นนอก รวบปลายขาด้วย แทมิน
แทมิน = แถบผ้าใช้มัดขากางเกง
บันโซเม = เสื้อรัดรูปแขนสั้นใส่ข้างใน
จอโกรี = เสื้อนอกแขนยาวไม่มีปก ไม่มีกระเป๋า


การผลิตชุดฮันบก มีประเภทเนื้อผ้าที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับโอกาสและวัยของ ผู้สวมใส่ โดยเด็กผู้หญิงหรือหญิงสาว (ที่ยังไม่แต่งงาน) จะสวมเสื้อสีเหลือง กระโปรงสีแดง และจะเปลี่ยนเป็นเสื้อสีเขียว กระโปรงสีแดงเมื่อแต่งงานแล้ว นอกจากนี้ ชาวเกาหลียังคำนึงถึงความเหมาะสมของเนื้อผ้ากับสภาพ
อากาศประเทศของตนอีกด้วย โดยในฤดูหนาวจะใช้ผ้าฝ้าย
และสวมกางเกงขายาวที่มีสายรัดข้อเท้า ช่วยในการเก็บความร้อนของร่างกาย
ส่วนในฤดูร้อนจะใช้ผ้าป่านลงแป้งแข็ง ซึ่งช่วยในการดูดซับและแผ่ระบายความร้อนในร่างกายได้ดี
ในปัจจุบันการสวมชุดประจำชาติฮันบก จะใช้เฉพาะในโอกาสพิเศษต่างๆเท่านั้น เช่น งานมงคลสมรส, ซอลนัล (วันขึ้นปีใหม่ของเกาหลี) หรือวันชูซก (วันขอบคุณพระเจ้า) แต่อย่างไรก็ตาม ผู้คนบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้สูงอายุก็ยังคงสวมใส่ชุดฮันบกกันอยู่



Happiness in your hands www.happytokorea.com
koreaform.gif

SeoUl

อันนยอง อิอิ  เราก้อชอบเกาหลีมากๆค่ะโดยเฉพาะศิลปินดาราเนี้ยรักมากกกกอ่ะ เราชอบวงC.N.BLUE  มากเลย